ไอเดียชุมชน
3 เสาหลักของการเทรด (Trading)การเทรดให้มีกำไร ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพียงสิ่งเดียว
3 เสาหลัก แบ่งระดับความสำคัญของสำหรับการเทรด
- Technical การวิเคราะห์กราฟ: 10%
- Money Management การจัดการเงินทุน: 30%
- Psychology การจัดการกับอารมณ์: 60%
ทั้ง 3 สิ่งนี้ มันต้องเกื้อหนุนกัน ...เลือกอันใดอันหนึ่งไม่ได้
วิเคราะห์กราฟเก่ง …แต่บริหารเงินไม่ดี แบบนี้พลาดครั้งเดียวอาจหมดตัว
เก่งกราฟ …บริการเงินดี …แต่แพ้อารมณ์ ประสิทธิภาพการตัดสินใจก็ลดลง
#และนอกนี้จากยังมีปัจจัยเสี่ยงยิบย่อยอื่น ๆ อีกนะ เช่น
- ความเสถียรของระบบแพลตฟอร์มเทรด
- ความปลอดภัยระบบแพลตฟอร์มเทรด (รวมถึงตัวเราด้วย)
- เครื่องไม้เครื่องมือของระบบแพลตฟอร์มเทรด
…นักเทรดกดส่งคำสั่งผิด อะไรประมาณนี้!!!
วิธีการใช้งานอินดิเคเตอร์ OhManLan Ribbon เบื้องต้นเราให้ความสำคัญกับการลดโอกาสขาดทุน และพยายามแก้ไขปัญหาหลักของ Ribbon คือความล่าช้าของสัญญาณ และสัญญาณหลอกที่มากขึ้นเมื่อปรับค่าให้เร็วขึ้น
OhManLan Ribbon มีอะไรบ้าง?
1.) สัญญาณ Up/Down ที่บอกให้ทราบถึงแนวโน้ม
2.) สัญญาณ Partial Take-Profit ที่สามารถใช้เป็นสัญญาณแบ่งปิดทำกำไร
3.) OML Cloud ที่สามารถใช้เป็นแนวรับ-ต้าน, ใช้เป็นจุด Stop loss หรือ Trailing stop, บอกความแข็งแรงของเเนวโน้มและยังสามารถช่วยลดสัญญาณหลอกจาก Up/Down Signal ได้ด้วย
OhManLan Ribbon คือ Indicator ที่จะช่วยให้คุณวิเคราะห์กราฟได้ง่ายขึ้นสำหรับตลาดคริปโต
### วิธีการใช้งานเบื้องต้น
Up/Down Signals
- Up หมายถึง เทรนขาขึ้น สามารถเล่น Buy ได้
- Down หมายถึง เทรนขาลง สามารถเล่น Sell ได้
- Ribbon (Options): OML V4 ใช้ได้ทั่วไป, SaiDao ใช้สำหรับ Altcoins
*เตือน
- Up ไม่ได้หมายถึง แท่งเทียนสีฟ้า
- Down ไม่ได้หมายถึง แท่งเทียนสีส้ม
Up/Down สามารถขึ้นที่แท่งเทียนสีไหนก็ได้
*ทริคเสริม
แท่งเทียนสีชมพู สามารถ Buy บางส่วนได้หากมี RSI Divergence
แท่งเทียนสีเหลือง สามารถ Sell บางส่วนได้หากมี RSI Divergence
---------------------------------------
Partial Take-Profit Signals (X Signals)
- x สีส้ม หมายถึง แบ่งปิดทำกำไรสำหรับ Up Signal
- X สีฟ้า หมายถึง แบ่งปิดทำกำไรสำหรับ Down Signal
---------------------------------------
OML Cloud
- สามารถใช้เป็นแนวรับ-ต้าน, จุด Stop loss หรือ Trailing stop
- สามารถช่วยลดสัญญาณหลอก Up/Down
สีของ OML Cloud
-ฟ้า/เขียว หมายถึง เทรนขาขึ้นที่แข็งแรง
-ฟ้า/เหลือง หมายถึง เทรนขาขึ้นเริ่มอ่อนแรง
-ชมพู/เหลือง หมายถึง เทรนขาลงที่แข็งแรง
-ชมพู/เขียว หมายถึง เทรนขาลงเริ่มอ่อนแรง
---------------------------------------
### อย่าหาทำ
X อย่าพึ่งพา OhManLan Ribbon เพียงตัวเดียว
X อย่าซื้อขายตาม Up/Down Signal แล้วพูดว่ายอมขาดทุนไปเถอะเวลาได้ก็กินคำใหญ่ แบบนี้ไม่เอา การเทรดไม่ใช่ของเล่นจะมาทำเล่น ๆ พูดมักง่าย ๆ ไม่ได้แบบนี้ไม่เอา
X ถ้าไม่มีทักษะอื่นมาร่วมวิเคราะห์ ก็พยายามหลีกเลี่ยง Altcoin ไว้ก่อน
X หลีกเลี่ยงการเทรดบน Time frame ระยะกลางและระยะสั้น ***TF ที่เหมาะสมที่สุดคือ 1 Day (ระยะสั้น ได้แก่ 5-15-30 นาที, ระยะกลาง ได้แก่ 60-120 นาที)
---------------------------------------
# OhMan Lan
ติดตามเราเพื่อรับบทวิเคราะห์, บทช่วยสอนและอินดิเคเตอร์
ขอให้โชคดีในการทำกำไร และเรายินดีที่จะรับคำแนะนำของคุณเพื่อปรับปรุง
Chart Patterns หรือ Price PatternsChart Patterns หรือบางคนก็เรียกว่า Price Patterns คือ แท่งเทียนที่เรียงตัวกันเป็นรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง
มันก็คือการลาก trend line ปกตินี่แหละ เพียงแต่ลากให้เป็นรูปร่างต่าง ๆ เพื่อให้เห็นรูปแบบกลุ่มแท่งเทียนได้ชัดเจนขึ้น ซึ่งอาจจะสามารถบอกว่ามันคือการสร้างหลักจิตวิทยาจากจินตนาการของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่ถูกเผยแพร่ไปสู่คนจำนวนมาก …เพื่อให้เห็นพ้องต้องกัน
การใช้งานมีความยืดหยุ่นสูง อยู่ที่ว่าเราจะใช้เพื่อดูอะไร แต่ละคนก็อาจจะใช้ไม่เหมือนกัน
BTCUSDTความคล้ายกันของ harmonic และ รูปแบบชาร์ตทั่วไป คือ ในแต่ละอัน รูปร่างและโครงสร้างจะเป็นปัจจัยหลักในการรับรู้และยอมรับรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ดังนั้นการเคลื่อนไหวของราคาถัดไปสามารถถูกคาดหมายด้วยเป้าหมายที่จะเปลี่ยนจากรูปแบบมาเป็นกำไร อย่างไรก็ตามความแตกต่างที่สำคัญ คือ รูปแบบ harmonic ถูกกำหนดไว้อย่างละเอียดมากกว่า โดยมีโครงสร้างกลับตัวแบบ 5 จุด ซึ่งประกอบไปด้วยส่วนผสมของ Fibonacci retracements และ Fibonacci extensions ที่ต่อเนื่องกันด้วยรูปแบบอย่างดี ทำให้ไม่เกิดการแปลความหมายได้หลายอย่าง
รูปแบบ Harmonic จะเกิดซ้ำๆ กันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงตลาดที่ราคากำลังพักตัว โดยทั่วไปจะมีอยู่ 2 รูปแบบ คือ โครงสร้าง retracement แบบ 5 จุด อย่างเช่น Gartley และ Bat และรูปแบบ extension แบบ 5 จุด อย่างเช่น Butterfly และ Crab การเทรดตามรูปแบบ Harmonic ต้องอาศัยความอดทน เนื่องจากความเฉพาะตัวของอัตราส่วน รูปแบบที่ปรากฎเป็น Harmonic อาจไม่ได้เป็นตามนั้น เนื่องจากมันต้องตรงตามสัดส่วนที่เหมาะสม
วิธีค้นหานักวิเคราะห์ที่ใช่บน TradingViewเฮ้ทุกคน! 👋
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เราได้โพสต์เกี่ยวกับผู้เขียนบางคนที่กำลังได้รับโมเมนตัมบนแพลตฟอร์มของเรา ซึ่งนำไปสู่การตอบรับที่ดีอย่างมากมายจากชุมชน และในขณะที่เราวางแผนที่จะเผยแพร่รายการ "การเรียบเรียง" เหล่านั้นเป็นรายเดือนนับจากนี้ไป เราคิดว่าน่าจะดีที่จะเน้นย้ำถึงวิธีอื่นๆ ที่คุณสามารถหานักเขียนที่ชาญฉลาดและมีทักษะที่ซื้อขายสิ่งเดียวกันกับที่คุณกำลังซื้อขายได้
มาเริ่มกันเลย
ขั้นตอนที่ 1 : เปิดชาร์ตของสิ่งที่คุณต้องการซื้อขาย
นี่อาจเป็นทรัพย์สินใดๆ ในไทม์เฟรมที่สูงกว่า 15 นาที เราไม่อนุญาตให้ผู้คนโพสต์ในไทม์เฟรมที่ต่ำกว่า 15 นาที
ขั้นตอนที่ 2 : เปิดใช้งานไอเดียชุมชนที่มองเห็นได้
ไปที่แถบเครื่องมือทางด้านขวา และตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เลือกแท็บ "Idea Stream" แล้ว นี่คือไอคอนหลอดไฟที่กำลังสั่นไหว จากเมนูนี้ ให้เลือกหลอดไฟที่ด้านบน ตอนนี้คุณสามารถเห็นสัญลักษณ์ที่แสดงในชาร์ตและความคิดทั้งหมดที่โพสต์ในช่วงเวลานั้น! หากคุณไม่เห็นอะไรเลย ให้ลองดูสัญลักษณ์และไทม์เฟรม "ทั่วไป" เพิ่มเติม ตรวจสอบชาร์ต AAPL และ BTCUSD รายวัน
ขั้นตอนที่ 3 : ใครเป็นคนตอกท่อนบนและท่อนล่าง
ด้วยการตีความภาพสำหรับข้อความเสริมของแนวคิดที่มีความยาวและสั้น น่าจะเป็นเรื่องง่ายที่จะระบุได้ว่าใครทำงานได้ดีในการค้นหาว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ใครเป็นคนแรกที่เข้าสู่งานใหญ่? ใครมีสิทธิ์ที่จะทำกำไรบ้าง?
เมื่อคุณพบคนที่ดูเหมือนจะทำงานได้ดีในเรื่องนี้แล้ว สิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะได้เห็นแนวคิดอื่นๆ ของพวกเขาเป็นอย่างไร! อย่าลืมไปที่โปรไฟล์ของพวกเขาและตรวจดูว่าแนวคิดส่วนใหญ่ของพวกเขาถูกต้องหรือไม่ หรือนั่นอาจจะเป็นโชคดีกับผู้ชนะที่แท้จริงเพียงคนเดียว
ขั้นตอนที่ 4 : ติดตามพวกเขา!
นี่เป็นวิธีที่ง่ายมากในการสร้างกระแสข้อมูลคุณภาพสูง และสนับสนุนกระบวนการสร้างแนวคิดของคุณ แม้ว่าผู้โพสต์จะแลกเปลี่ยนความคิดของตนเองได้ไม่ดี แต่ก็ยังมีข้อได้เปรียบสำหรับผู้ที่มีแนวทางการซื้อขายที่ดี สตรีมที่มีการดูแลจัดการอย่างดีอาจเป็นแหล่งที่มาของอัลฟ่าที่สำคัญได้!
ขั้นตอนโบนัส 5 : ล้างสตรีมไอเดียของคุณ
สิ่งหนึ่งที่คุณสามารถทำได้คือจำกัดแนวคิดที่มองเห็นได้บนชาร์ตของคุณไว้เฉพาะกับคนที่คุณติดตาม สิ่งนี้ควรทำให้ชัดเจนโดยสมบูรณ์หากคนที่คุณติดตามทำผิดอย่างต่อเนื่อง ถ้าใช่ คุณสามารถลบออกจากฟีดการสร้างไอเดียของคุณได้อย่างง่ายดายโดยเลิกติดตาม ทำให้ฟีดแนวคิดทำงานให้กับคุณ ไม่ทำให้คุณท่วมท้น!
-ทีม TradingView
การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis)การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) คือการศึกษาพฤติกรรมของราคาในอดีตและปัจจุบัน เพื่อคาดการณ์ความน่าจะเป็นที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่เก่าแก่ที่สุดคาดว่าน่าจะเป็นกราฟแท่งเทียน
#การเทรดด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) คือ การซื้อขายจากการวิเคราะห์ข้อมูลที่เห็นปัจจุบันอยู่ตรงหน้า ไม่ใช่การวิเคราะห์ในสิ่งที่ไม่มีอยู่หรือยังไม่เกิดขึ้น “Trader ที่เทรดด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิคส่วนใหญ่ จะไม่ดูข่าว จะไม่สนใจข่าว เพราะเชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในตลาดนั้นได้แสดงให้เห็นในกราฟราคาแล้ว”
-----------------------------
*** ไม่ใช่ หมอดู “ราคาจะขึ้นตอนไหน จะลงตอนไหนเราไม่รู้ …แต่เรารู้ว่าถ้าขึ้นเราจะทำยังไง ถ้าลงเราจะทำยังไง”
เป็นการหาความน่าจะเป็นเท่านั้น เราไม่สามารถสั่งกราฟหรือหาความแม่นได้ เช่นเดียวกับการที่เราสั่งฝนไม่ให้ตกหรือสั่งพระอาทิตย์ไม่ให้ส่องแสงไม่ได้ ...เราไม่สามารถควบคุมทุกอย่างได้ 100% ถ้าเราควบคุมทุกอย่างได้ 100% …โลกนี้คงไม่มีคำว่า อุบัติเหตุ ***แต่สิ่งที่เราทำได้คือ ลดความเสี่ยง ลดโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุ
#จุดประสงค์ของการวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis)
…ทราบถึงระดับความเสี่ยง เพื่อลดความเสี่ยง
…เพื่อให้การเทรดของเราไม่ใช่การพนัน
เมื่อเราทราบถึงระดับความเสี่ยงแล้วเนี่ย การวางแผนเทรดของเราก็จะมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
// พูดง่าย ๆ ก็คือ ไม่ได้มั่ว ไม่ได้เดา
☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆
นักเทรดทั้งหลาย อย่าไปเข้าใจว่าเราสามารถหาความแม่นในตลาดได้
ถ้าหาความแม่นในตลาดได้จริง คงไม่มีคำว่า “Black Swan”
นอกจากบุญกับบาป ก็หาไม่มีแล้วที่เที่ยงแท้แน่นอน
// OhManLan // // OhManLan // // OhManLan //
☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ OhManLan ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆
เทคนิคการได้ราคาที่ดีกว่า 🎯เฮ้ทุกคน! 👋
เราได้โพสต์ แนวคิด เกี่ยวกับคำสั่งซื้อหลักสามประเภทที่ผู้เข้าร่วมตลาดใช้งาน: มาร์เก็ตออร์เดอร์, ลิมิตออร์เดอร์, และสตอ๊อปออร์เดอร์
ในสัปดาห์นี้ เราคิดว่าเราจะก้าวไปอีกขั้น และหารือเกี่ยวกับเทคนิคขั้นสูงบางอย่างที่เทรดเดอร์มืออาชีพใช้เพื่อให้ได้ราคาที่ดีกว่า โดยใช้คำสั่งสามประเภทดังกล่าว🎯
เทคนิคที่ 1: ใช้คำสั่ง ลิมิต-ทรู แทนคำสั่งซื้อลิมิตออร์เดอร์ 📈
นี่เป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมในหมู่นักเทรดในเกือบทุกสถานการณ์ หากคุณต้องการ "รับ" สภาพคล่อง (คุณคือผู้รุกรานในการซื้อขาย) การใช้คำสั่ง ลิมิต-ทรู มักจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าการใช้คำสั่งลิมิตออร์เดอร์ คำสั่ง ลิมิต-ทรู มีชื่อเรียกเช่นนั้นเนื่องจากเป็นคำสั่งซื้อแบบจำกัด - "ฉันต้องการซื้อหุ้นในราคานี้และไม่แย่ไปกว่านี้" - แต่ราคาดังกล่าวอยู่เหนือข้อเสนอที่ดีที่สุด
ลองดูตัวอย่างเช่น AAPL อีกครั้ง สมมติว่าหุ้นเสนอราคาที่ 175.01 ดอลลาร์และเสนอขายที่ 175.03 ดอลลาร์ คำสั่งซื้อแบบ ลิมิต-ทรู อาจมีราคาที่ $175.05 คำสั่งจำกัดเช่นนี้คือ "ผ่าน" ราคาของข้อเสนอที่ดีที่สุด และทำให้ "สามารถซื้อขายในตลาดได้"
เหตุผลที่คำสั่ง ลิมิต-ทรู มักจะดีกว่าคำสั่ง ลิมิตออร์เดอร์ เนื่องจากโครงสร้างจุลภาคของตลาด
หากคุณวางคำสั่งซื้อแบบ ลิมิต-ทรู ตามที่อธิบายไว้ข้างต้น คุณอาจไม่ได้รับสิ่งที่คุณต้องการซื้อเต็มจำนวน แต่คุณจะไม่จ่ายมากเกินกว่าที่คาดไว้ ด้วยคำสั่งลิมิตออร์เดอร์ ผู้ดูแลสภาพคล่องอาจเติมคุณในหุ้น 100 ชุดแรกของคุณ จากนั้นจึงเพิ่มข้อเสนอในการแลกเปลี่ยนอื่น ๆ ที่คุณจะได้เติมส่วนที่เหลือ
ตลาดหลักทรัพย์ BATS นั้นใกล้กับแมนฮัตตันมากกว่าศูนย์ข้อมูล NY4 ซึ่งเป็นที่ตั้งของเซิร์ฟเวอร์ตลาดหลักทรพย์ที่ใหญ่กว่า ซึ่งหมายความว่าคำสั่งซื้อของคุณอาจถึง BATS ก่อนตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ หากผู้ดูแลสภาพคล่องรู้ว่ามีความสนใจในการซื้อบางอย่าง พวกเขาจะเติมเต็ม 100 หุ้นแรกของหุ้นบางตัว จากนั้นให้ดำเนินการตามคำสั่งของคุณไปยังตลาดหลักทรัพย์อื่น ๆ ที่มีสภาพคล่องมากกว่าและอาจเพิ่มข้อเสนอของพวกเขา ทำให้คุณได้ราคาที่แย่ลง
สิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเสมอไป แต่วิธีการตั้งค่าตลาดมักทำให้มีเรื่องตลกตลกเช่นนี้ ผู้เชี่ยวชาญจึงมักจะใช้คำสั่งซื้อแบบ ลิมิต-ทรู (เช่น ราคาคำสั่งคือ เสนอ+0.02c เป็นต้น) เพื่อเลี่ยงปัญหาเหล่านี้ เช่นเดียวกับเมื่อกลับรายการเพื่อขายสินทรัพย์
เทคนิค 2: ทำตามคำสั่งของคุณ 💪
เรื่องน่ารู้: คำสั่งซื้อที่คุณเห็นอาจไม่ใช่คำสั่งซื้อจริง และนั่นเป็นความจริง!
เมื่อพูดถึงตลาดสำหรับการรักษาความปลอดภัย คำสั่งจำกัดมีสองประเภท: คำสั่ง "Lit" และคำสั่ง "Dark" เมื่อดูความลึกของตลาด คุณจะเห็นภาพแค่บางส่วนเท่านั้น!
บางครั้งจะมีคำสั่งซื้อที่ซ่อนอยู่ระหว่างราคาที่คุณต้องการและราคาที่แสดง การวางคำสั่งซื้อของคุณภายในสเปรด เป็นไปได้ที่จะได้ราคาที่ดีกว่าที่คุณมีจาก dark orders / pegs / ฯลฯ
นอกจากนี้ หากคุณวางคำสั่งซื้อของคุณระหว่างสเปรด คุณจะกลายเป็นราคาที่ดีที่สุดใหม่จากฝั่งของคุณ สิ่งนี้อาจกระตุ้นให้คนที่กำลังมองหาฝั่งตรงข้ามของการซื้อขายมาพบคุณในที่ที่คุณอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดออปชั่นที่สเปรดมักจะกว้างและเคลื่อนไหวช้า การทำงานตามคำสั่งของคุณ (การโพสต์และการย้าย) จะทำให้คุณได้รับสินทรัพย์ที่ดีกว่าการกดราคาโพสต์ที่ดีที่สุดในด้านอื่น ๆ ของการซื้อขาย
เพียงให้แน่ใจว่าคุณไม่พลาดการเคลื่อนไหวในขณะที่รอการเติมเต็ม!
เทคนิค 3: ใช้สมุดบันทึกคำสั่งซื้อขายให้เป็นประโยชน์ 🧾
นี่เป็นสิ่งที่หายาก แต่บางครั้งเทรดเดอร์ที่ไม่มีประสบการณ์ในตลาดก็เพียงแค่ "เปิดเผยไพ่ของพวกเขา" ซึ่งมักจะเกี่ยวข้องกับ Lit Limit Order ที่มองเห็นได้ชัดเจนในสมุดคำสั่งซื้อ หากบุคคลนั้นเริ่มส่งสัญญาณการรุกราน คุณอาจได้รับราคาที่เหลือเชื่อสำหรับทรัพย์สินที่คุณกำลังมองหา
ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณต้องการซื้อหุ้น AAPL และคุณดึงคำสั่งซื้อ (ความลึกของตลาด) จากที่นี่ คุณจะเห็นว่ามีคำสั่งจำกัดการขายจำนวนมากที่ค่อยๆ ขยับราคาให้ต่ำลงเพื่อพยายามเติมเต็ม แรงกดดันในการขายที่เห็นได้ชัดแบบนี้สามารถนำไปสู่การเคลื่อนไหวของราคาที่มีนัยสำคัญ เนื่องจากส่วนหน้าของตลาดใช้สภาพคล่องทั้งหมดที่วาฬกำลังมองหา การดำเนินการนี้อาจดำเนินต่อไปอีกระยะหนึ่งจนกว่าวาฬจะเริ่มรับเงิน เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น หุ้นมีแนวโน้มที่จะพบพื้นที่ความต้องการในท้องถิ่นซึ่งอาจเป็นราคาที่ดีกว่าที่คุณคาดหวังมากเมื่อคุณดึงตั๋วคำสั่งซื้อ สิ่งสำคัญที่สุดคือ การใช้ประโยชน์จากสถานการณ์เหล่านี้อาจเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล หากคุณพบเห็นก่อนที่จะส่งออกคำสั่งซื้อ
เพียงแค่นี้! เคล็ดลับและลูกเล่นบางประการเพื่อให้ได้ราคาที่ดีขึ้นโดยใช้คำสั่งซื้อและหนังสือสั่งซื้อ
-ทีม TradingView 💘
หากคุณพลาด นี่คือแนวคิดสำหรับมือใหม่:
ตลาดหุ้นอเมริกา และทั่วโลกเข้าสู่ช่วงการปรับฐานใหญ่ ???ตลาดหุ้นอเมริกาเข้าสู่ช่วงการปรับฐานใหญ่ ตลาดหุ้นทั่วโลกอาจจะกำลังเข้าสู่ช่วงการปรับฐาน ?? วิธีใช้กฏตรวจสอบคลื่น 3 ยืดตัว ตัวอย่างดัชนี Nasdaq ที่เคยดูไว้เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2561 (4 ปีที่แล้ว )
ตอนนี้คลื่นที่คาดว่าจะเป็นคลื่นสามเกินเป้าหมายที่ 261.8 % แล้วซึ่งก็อาจจะเป็นอิมพาวเวฟได้ในการตรวจสอบคลื่นสี่ ในการปรับฐานลงหากว่าเป็นคลื่นสี่ของคลื่นสามที่ยืดตัวก็จะต้องห้ามลงเกิน 61.8% ของคลื่นสาม หากไม่ต่ำกว่านั้นค่อยมาดูคุณสมบัติ Impulsive ที่จะเป็น Multiwaves จะต้องมีดังนี้
1.1 ในคลื่นที่ 1,3,5 ต้องมีคลื่นใดคลื่นหนึ่ง แบ่ง subdivide
1.2 ในคลื่น 2 หรือ 4 ในโครงสร้าง impulsive นั้น จะต้องสามารถแบ่งย่อยเป็น a-b-c ได้ในคลื่นใดคลื่นหนึ่ง หรือ อาจทั้งสองคลื่น ก็ได้
1.3 คลื่น 2 หรือ 4 ที่ใช้ระยะเวลานานที่สุด ควรจะเป็นคลื่นที่เกิดก่อน หรือ คลื่นยืดตัวทันที เช่น หากคลื่น 1 เป็นคลื่นยืดตัวแล้ว คลื่น 2 ควรเป็นคลื่นที่ใช้เวลามากที่สุด แต่หากคลื่น 5 เป็นคลื่นยืด ตัวแล้วคลื่น 4 ควรใช้เวลานานกว่าคลื่น 2 และหากเป็นคลื่น 3 ยืดตัว คลื่น 2 และ 4 มักใช้เวลาพอๆกัน แต่รูปแบบต้องแตกต่างกันตามกฎ Rule of Alternation และยังมี Rule of Equality กับ Overlap Rule อีก 2 กฏ ถึงจะผ่านกฏทั้งหมด ส่วน Multiwaves ใน Corrective จะมีลักษณะดังนี้
1. จะต้องมีอย่างน้อย ใน wave-a ,wave-c จะต้องแบ่งได้ 5 subdivided
2. wave-b ควรแบ่ง subdivided a-b-c ได้ ( Wave-b เป็น polywave )
Order Book คือ แผงตลาดขออธิบายแบบบ้าน ๆ ก่อน Order Book เปรียบเสมือนแผงตลาดที่เอาไว้วาง (สินค้า / สิ่งแลกเปลี่ยน) เพื่อให้ พ่อค้าแม่ค้า กับ ลูกค้า ได้เปลี่ยนเปลี่ยนกัน
แม่ค้าขายเนื้อหมู (สินค้า/สิ่งแลกเปลี่ยน คือ เนื้อหมู)
ลูกค้าซื้อเนื้อหมู (สินค้า/สิ่งแลกเปลี่ยน คือ เงิน)
Order Book ก็คือแผงตลาดเลย เป็นสถานที่พบเจอเพื่อแลกเปลี่ยนซื้อขายกัน ต่อรองราคากัน และเมื่อตกลงกันได้ก็จะทำการซื้อขายกัน
######## -------- ########
Order Book เป็นที่แสดง คำสั่งซื้อ และ คำสั่งขาย ของนักเทรด
ผู้ขาย (สินค้า/สิ่งแลกเปลี่ยน คือ Bitcoin)
ผู้ซื้อ (สินค้า/สิ่งแลกเปลี่ยน คือ USD)
หากนักเทรดส่งคำสั่งขาย คำสั่งนั้นก็จะไปปรากฏใน Order Book ของฝั่งผู้ขาย เพื่อรอรับคำสั่งซื้อ (รอให้คนมาซื้อ)
หากนักเทรดส่งคำสั่งซื้อ คำสั่งนั้นก็จะไปปรากฏใน Order Book ของฝั่งผู้ซื้อ เพื่อรอรับคำสั่งขาย (รอให้คนมาขาย)
// OhManLan // // OhManLan // // OhManLan //
☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ OhManLan ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆
แนวโน้ม (Trend)แนวโน้ม (Trend) คือ ทิศทางการเคลื่อนที่ของราคา ซึ่งจะมีอยู่ 3 แนวโน้ม
1.)แนวโน้มขาขึ้น (Up Trend)
คือ ทิศทางของราคาที่ปรับตัวสูงขึ้นและสร้างฐานราคาสูงขึ้นเรื่อย ๆ
หรือจะพูดง่าย ๆ ก็คือการที่ราคาทำจุดสูงสุดที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับทำจุดต่ำสุดที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน
- Low ใหม่จะสูงกว่า Low ก่อนหน้า
- High ใหม่จะสูงกว่า High ก่อนหน้า
## -- ## -- ## -- ## -- ## -- ##
2.)แนวโน้มขาลง (Down Trend)
คือ ทิศทางของราคาที่ปรับตัวต่ำลงเรื่อย ๆ
หรือจะพูดง่าย ๆ ก็คือการที่ราคาทำจุดต่ำสุดที่ต่ำลงเรื่อย ๆ พร้อมกับทำจุดสูงสุดที่ต่ำลงเรื่อย ๆ เช่นกัน
- Low ใหม่จะต่ำกว่า Low ก่อนหน้า
- High ใหม่จะต่ำกว่า High ก่อนหน้า
## -- ## -- ## -- ## -- ## -- ##
3.)แนวโน้มด้านข้าง (Sideway Trend)
คือ ทิศทางของราคาไม่มีทิศทางที่แน่นอน จะลงก็ไม่ลง จะขึ้นก็ไม่ขึ้น
หรือจะพูดง่าย ๆ ก็คือเคลื่อนที่ออกด้านข้าง
- Low ใหม่จะต่ำกว่าและสูงกว่า Low ก่อนหน้าก็ได้ สลับกันไปมาโดยเคลื่อนที่ออกด้านข้าง
- High ใหม่จะต่ำกว่าและสูงกว่า High ก่อนหน้าก็ได้ สลับกันไปมาโดยเคลื่อนที่ออกด้านข้าง
// OhManLan // // OhManLan // // OhManLan //
☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ OhManLan ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆
STOP LOSS สิ่งธรรมดา ง่าย ๆ ที่สำคัญมาก แต่ทำกันได้ยากSTOP LOSS (หยุดสูญเสีย) คือ การรักษาเงินในพอร์ตการลงทุนของเราไว้ เพื่อไม่ให้มูลค่าของพอร์ตการลงทุนลดลงไปมากกว่านี้
2 จุดประสงค์หลักของ Stop loss
- ใช้เพื่อหยุดการขาดทุน (บางคนจะเรียกว่า Cut loss)
- ใช้เพื่อปกป้องกำไร หยุดสูญเสียกำไร (บางคนจะเรียกว่า Stop profit)
// OhManLan // // OhManLan // // OhManLan //
☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ OhManLan ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆
คำสั่งตลาด (Market Order)คำสั่งตลาด (Market Order), คำสั่งนี้จะ Buy หรือ Sell ทุกราคาที่มีใน Order book ทันที
***หากใช้คำสั่งนี้บน Exchanges ที่มีสภามคล่องที่ต่ำ
จะมีความเสี่ยงที่สูงมาก เพราะคุณอาจจะได้ Buy หรือ Sell ในราคาที่สูงกว่าหรือต่ำกว่าราคาปัจจุบัน
## --- ## --- ## --- ##
ตัวอย่างการ Buy ด้วย Market Order
#Buy(1)
หากส่งคำสั่งตลาด (Market Order) ด้วยจำนวนเงิน 10,000 USD
ระบบจะทำการ Buy ทุกราคาที่มีใน Order book ฝั่ง Sell ทันที
ตามภาพ ระบบจะทำการ Buy ให้คุณทันทีที่ราคา 38,480 USD
#Buy(2)
หากส่งคำสั่งตลาด (Market Order) ด้วยจำนวนเงิน 176,265 USD
ระบบจะทำการ Buy ทุกราคาที่มีใน Order book ฝั่ง Sell ทันที
ตามภาพ ระบบจะทำการ Buy ให้คุณทันทีทั้งหมด 7 ราคา ได้แก่
38,480 USD ด้วยจำนวนเงิน 164,538 USD
38,482 USD ด้วยจำนวนเงิน 394 USD
38,483 USD ด้วยจำนวนเงิน 41 USD
38,484 USD ด้วยจำนวนเงิน 430 USD
38,485 USD ด้วยจำนวนเงิน 426 USD
38,486 USD ด้วยจำนวนเงิน 6,007 USD
38,487 USD ด้วยจำนวนเงิน 4,829 USD
## ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ OhManLan ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ##
ตัวอย่างการ Sell ด้วย Market Order
#Sell(1)
หากส่งคำสั่งตลาด (Market Order) ด้วยจำนวนเงิน 10,000 USD
ระบบจะทำการ Sell ทุกราคาที่มีใน Order book ฝั่ง Buy ทันที
ตามภาพ ระบบจะทำการ Sell ให้คุณทันทีที่ราคา 38,479 USD
#Buy(2)
หากส่งคำสั่งตลาด (Market Order) ด้วยจำนวนเงิน 2,150,140 USD
ระบบจะทำการ Sell ทุกราคาที่มีใน Order book ฝั่ง Buy ทันที
ตามภาพ ระบบจะทำการ Sell ให้คุณทันทีทั้งหมด 4 ราคา ได้แก่
38,479 USD ด้วยจำนวนเงิน 2,093,286 USD
38,478 USD ด้วยจำนวนเงิน 1,203 USD
38,477 USD ด้วยจำนวนเงิน 5,013 USD
38,476 USD ด้วยจำนวนเงิน 50,638 USD
// OhManLan // // OhManLan // // OhManLan //
☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ OhManLan ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆
WAVES: RSI Overbought ใช่ว่าจะต้องกลับตัวRSI Overbought ใช่ว่าจะต้องกลับตัว
โดยมากเรามักจะพบว่า
เมื่อ RSI Overbought แรกหลังจาก Oversold
การลงนั้นมักจะเป็นการลง (ย่อ) เพื่อขึ้นต่อ
***พยายามหลีกเลี่ยงการ Short ไว้ก่อน จนกว่าจะมีสัญญาณที่ยืนยันแล้วว่าจะกลับเทรนเป็นเทรนขาลง